หลินฮุ่ยอาจจะไม่สามารถตั้งท้องได้ในปีนี้
น่าจะเป็นจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับโครงการแพนด้า ที่จะทำการทบทวนการทำงานที่ผ่านมา
สมควรที่จะตั้งคำถามกับตนเอง ว่า ทำไมผู้ที่รักแพนด้าจำนวนมากถึงไม่เห็นด้วยกับการที่หลินฮุ่ยจะมีลูกในปีนี้
มีการขอร้องกันครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อเริ่มขบวนการแยกแม่ลูก ด้วยเหตุผลที่อยากจะให้หลินปิงได้ใช้ชีวิตกับแม่นานจนทั้งคู่แยกย้ายไปเอง และเพื่อให้หลินฮุ่ยได้พักฟื้นร่างกายจากการเลี้ยงหลินปิง
ทว่าทางโครงการไม่เคยรับฟ้ง พร้อมอ้างว่ามีสัญญากับทางประเทศจีน ว่าต้องให้หลินฮุ่ยมีลูกให้ได้ในปีนี้ ทั้งที่ได้มีการสอบถามถึงข้อเท็จจริง ปรากฏว่า ทางประเทศจีนไม่เคยกำหนดในข้อส้ญญาเช่นนั้นเลย โครงการแพนด้าหลอกลวงผู้ชมอย่างไม่แนบเนียน และยังคงนำมาอ้างในภายหลังหลายครั้ง
จากการทำงานของโครงการในขั้นตอนแยกแม่ลูกนี่เอง ที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นความสามารถแบบมวยวัดของโครงการแพนด้าเด่นชัดขึ้น เชื่อว่าไม่มีผู้ชมคนไหนอยากจะจับผิดโครงการ แต่การทำงานของโครงการเองที่ทำให้เปิดเผยตัวเองออกมา ว่าไม่เคยมีกาคันคว้าหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากสวนสัตว์ที่ประสบความสำเร็จในการแยกแม่ลูก โครงการทะนงตัวเกินไป คิดว่าการแยกแม่ลูกเป็นเรื่องง่าย ถ้าเพียงแต่โครงการจะเปิดใจ ยอมรับฟังเสียงจากผู้ชม และโครงการมีการใช้เทคโลโลยีอย่างคุ้มค่า มีวิสัยท้ศน์ที่กว้างไกล เหมือนกับประโยคที่ WM ของ Chiangmai zoo ใน FaceBook เคยกล่าวไว้ ผลั้ออกมาคงไม่ล้มเหลวไม่เป็นท่าแบบนี้ ( เรื่องของ FB Chiangmai zoo ก็คงลืมยากเหมือนกัน เล่นลบความเห็นกันดื้อๆ ทั้งที่เป็นความเห็นเกี่ยวกับสัตว์ใน CMZ เรียกว่าวิสัยทัศน์ไม่กว้างจริง เขียนคำขวัญไปงั้นๆ เพราะเห็นว่าโก้ดี ตามวิสัยทัศน์ของข้าราชการไทยส่วนมากที่พึงจะเป็น ขยันเขียนคำขวัญ แต่ในความเป็นจริง การกระทำตรงกันข้าม จากขาวเป็นดำ )
หลินปิงได้เป็นหมีแพนด้าที่เป็นโรคซึมเศร้าไปแล้ว และไม่ทราบว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรจึงจะกลับมาเป็นหมีแพนด้าที่เล่นสนุกสนานได้อย่างเดิม และไม่ทราบเหมือนกันว่าทางโครงการจะกู้ชื่อเสียงในการทำงานกลับมาได้หรือไม่ น่าเสียดาย ที่ทางหัวหน้าโครงการได้ทำลายความศรัทธาที่ผู้ชมได้มี ด้วยความโง่เขลาและทะนงตน หัวหน้าโครงการเคยมีโชคช่วย แต่ถ้าไม่ขวนขวายเรื่องการทำงานให้ก้าวหน้า โชคดีที่เคยได้รับ จะกลับกลายเป็นโชดร้ายในไม่ช้าอย่างแน่นอน
